ข่าววันนี้

นราธิวาส นกเงือกแสนรู้ 1 เดียวในโลกโชว์ลีลาเดาะตะกร้อสุดคล่องแคล่วกับทหาร

เรื่องราวความน่ารักและมิตรภาพต่างสายพันธุ์ได้ถูกเผยแพร่จาก ฐานปฏิบัติการทหารพรานนาวิกโยธิน กองทัพเรือ ซึ่งตั้งอยู่บ้านบูเกะสูดอ ม.2 ต.บาเร๊ะใต้ อ.บาเจาะ จ.นราธิวาส เมื่อนกเงือกแสนรู้ 1 เดียวในโลก ที่จ่าเอกดำรง พันธ์ธูป เจ้าหน้าที่ทหารในฐานฯดังกล่าวเป็นผู้ดูแลและได้ตั้งชื่อนกเงือกตัวนี้ว่า “ มะแอ ” ที่ได้กลายเป็นขวัญใจประจำฐาน ด้วยลีลาการ “ เดาะตะกร้อ ” ด้วยปากที่แข็งแกร่งจนทำให้ทหารในฐานยอมรับในความแสนรู้ จากนกที่เคยได้รับบาดเจ็บกลายมาสู่สมาชิกสุดซี้งประจำฐาน


จุดเริ่มต้นของ “ มะแอ ” มันเป็นนกที่ได้รับบาดเจ็บที่ชาวบ้านในพื้นที่ อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส พบนอนบาดเจ็บลักษณะคล้ายหัดบินแล้วตกอยู่ใต้โคนต้นไม้ใหญ่ ด้วยความสงสารจึงนำกลับมาดูแลที่บ้าน แต่เมื่อมีคนเตือนว่า การเลี้ยงนกเงือกอาจมีความผิดตามกฎหมาย ชาวบ้านจึงได้ตัดสินใจนำมาฝากไว้กับจ่าเอกดำรง ที่ในอดีตเคยถูกส่งตัวไปปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่ อ.รือเสาะ เมื่อมีคำสั่งย้ายมาปฏิบัติหน้าที่ที่บ้านบูเกะสูดอ อ.บาเจาะ จึงได้นำ “มะแอ” มาอยู่ด้วย มิเช่นนั้นหากปล่อยไว้มีโอกาสฌสียชีวิตสูง

ด้าน จ่าเอกดำรงค์ ซึ่งถือได้ว่าเป็นเจ้าหน้าที่ทหารที่มีความผูกพันกับนกเงือกแสนรู้ หรือ มะแอ ตัวนี้เป็นอย่างมาก ได้เล่าให้ฟังขณะกำลังเล่นลูกตะกร้อกับ “ มะแอ ” ว่า ตอนนั้นมะแอเจ็บที่ฝ่าเท้าและปาก ผมและเพื่อนๆช่วยกันป้อนอาหาร ดูแลจน “ มะแอ “ เริ่มบินได้ ช่วงแรก “ มะแอ “ ซนมากชอบจิกเสื้อผ้า กางเกงทหาร บินไปแขวนบนต้นไม้ใกล้ฐาน ข้าวของเครื่องใช้ต่างๆในฐานหายเพราะ “ มะแอ”
แต่สิ่งที่ทำให้ทุกคนหลงรัก “ มะแอ ” คือความสามารถพิเศษที่ไม่มีใครคาดคิด คือการ “เล่นตะกร้อ” สิ่งที่ทำให้ ” มะแอ ” มีความพิเศษกว่านกทั่วไปคือความสามารถในการ “ เล่นหรือเดาะตะกร้อ ”
โดยกิจกรรมนี้เริ่มจากในช่วงเย็นของทุกวัน หลังเลิกกำลังพลเลิกจากภารกิจ ทหารมักออกมาเตะตะกร้อเพื่อออกกำลังกาย และทุกครั้งที่ลูกตะกร้อลอยขึ้นสูง “ มะแอ ” จะบินโฉบเข้ามาเล่นด้วยเสมอ จนวันหนึ่งทหารลองเดาะลูกตะกร้อให้ “ มะแอ ” มันใช้ปากที่แข็งแกร่งกระแทกลูกตะกร้อกลับมาอย่างตั้งใจ กลายเป็นกิจกรรมประจำฐานที่สร้างรอยยิ้มในทุกเย็น เมื่อถึงเวลาประมาณ 3 โมงถึง 5 โมงเย็นเมื่อไหร่ ได้ยินเสียงทหารโห่ร้องจากสนาม หรือเห็นลูกตะกร้อลอยสูง “ มะแอ ” จะบินมารอเกาะที่หลังคาเรือนนอน ที่บ่งบอกถึงสัญชาตญาณว่า “ มะแอ ” พร้อมแจมแล้ว


ในส่วนของลูกตะกร้อที่ทหารใช้เล่นกับ “ มะแอ “ เป็นลูกตะกร้อพลาสติกแบบเบาหรือบางนุ่มเท้า ไม่มีผลกระทบหรือเป็นอันตรายต่อปากของ “ มะแอ “ ลักษณะการเตะก็เป็นเพียงการเดาะหรือโยนขึ้นไปเบาๆ เพื่อให้ “ มะแอ” ได้ตอบโต้กับมาให้อีกฝ่าย
นกเงือกแสนรู้ หรือ “ มะแอ “ ใช้ชีวิตอย่างอิสระอยู่ภายในฐานฯ ไม่ได้ถูกกักขังหรือเลี้ยงไว้ในกรง แต่ปล่อยให้อาศัยอยู่ตามธรรมชาติ บางวันก็บินวกแวะไปบ้านของชาวบ้านในละแวกนั้น ซึ่งชาวบ้านต่างก็รู้จักและรักถึงกับมีการเตรียมผลไม้ จำพวก มะละกอสุกและองุ่น ซึ่งเป็นเมนูสุดโปรดเผื่อไว้ หาก “ มะแอ “ มาหาก็จะป้อนจนอิ่มหนำสำราญเป็นประจำ สำหรับเมนูสุดโปรดรองลงของ “ มะแอ ” คือ ข้าวเหนียว, ลาบ, ส้มตำและไข่เจียว ที่ทหารเคยป้อนให้ “ มะแอ” กินตั้งแต่เล็ก
อย่างไรก็ตามความแสนรู้ของนกเงือก หรือ “ มะแอ ” ก็แฝงความซนหรือสัญชาตญาณอยู่ไม่น้อย หากใครแกล้งหรือไล่ “ มะแอ ” จะจำฝังใจและมักหาโอกาสบินตามจิกศรีษะเพื่อเอาคืน สร้างเสียงหัวเราะปนความเกรงใจให้กับเหล่าทหารหลายนาย ที่เคยทำพฤติกรรมกับ “ มะแอ “ นอกจากนี้เมื่อถึงเวลาทหารกินข้าวใครที่กินข้าวแล้วเหลือเศษอาหาร “ มะแอ ก็จะบินมารอถึงหน้าโรงครัว เพื่อขอมีส่วนร่วมกับอาหารทุกมื้อที่ต้องได้ลิ้มรส
” มะแอ ” จึงไม่ได้เป็นเพียงนกเงือกที่มีความพิเศษในเรื่องของการเดาะหรือจิกตะกร้อด้วยปากเท่านั้น แต่ยังเป็นสัญลักษณ์แห่งมิตรภาพ ความผูกพันระหว่างธรรมชาติกับมนุษย์ และเป็นเครื่องสะท้อนวิถีชีวิตที่อยู่ร่วมกันอย่างสันติสุขในพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้ได้อย่างดีเยี่ยม
ด้าน จ่าเอกดำรงค์ กล่าวว่า ชาวบ้านรือเสาะไปเข้าสวนเจอ “ มะแอ “ ตกอยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่และสูง ชาวบ้านเห็นถ้าทิ้งไว้อาจตายได้จึงได้นำกลับมาบ้าน ทางลูกหลานบอกว่าถ้านำมาเลี้ยงอาจมีความผิด เขาจึงตัดสินใจไปให้เพื่อนที่เป็นทหาร แล้วตั้งชื่อว่า “ มะแอ “ ซึ่งมีอาการบาดเจ็บที่ฝ่าเท้าและปาก ทหารดูแลและป้อนอาหารจนสามารถบินหรือเดินได้ ตอนเด็กๆค่อยข้างดื้อบินคาบเสื้อกางเกงขึ้นต้นไม้ตามประสานก มาเปิดกำกับของทหารกิน ไข่เจียว ข้าวเหนียว ลาบ น้ำตก กินหมด ในช่วงเย็นหลังเสร็จภารกิจจะเล่นตะกร้อกันในช่วงเย็น “ มะแอ” จะอยู่บนหลังคาใกล้ๆกับสนาม พอเล่นตะกร้อแปลูกสูงๆ “ มะแอ “ ก็จะบินใช้ปากมาเฉี่ยวตะกร้อ ครั้งแรกไม่ได้คิดอะไรพอมีครั้งที่ 2 ครั้งที่ 3 ก็คิดว่าเขาอยากเล่นด้วยก็เลยโยนลูกตะกร้อแบบเบาๆของผู้หญิงโยนให้ดู “ มะแอ “ ก็ส่งกลับมา ตอนนี้ก็เริ่มใช้เท้าแปส่งกลับไปกลับมา ก็เป็นที่มาของ “ มะแอ “ เตะตะกร้อ

นูอารีซ๊ะ ยะยือริ  รายงาน

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *