เอกอัครราชทูตอิสราเอลประจำประเทศไทย เข้าพบผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี เพื่อหารือแนวทางแก้ปัญหาหลังมีข่าวนักท่องเที่ยวอิสราเอลถูกตรวจสอบจากเจ้าหน้าที่รัฐ จนสร้างความไม่สบายใจแก่ชาวอิสราเอลที่เดินทางมาท่องเที่ยวในไทยกว่า 460,000 คนต่อปี
เอกอัครราชทูตฯ กล่าวย้ำว่า นักท่องเที่ยวอิสราเอลส่วนใหญ่เดินทางมาเพราะ “รักประเทศไทย” และ “ประทับใจการต้อนรับของคนไทย” โดยเฉพาะในพื้นที่เกาะท่องเที่ยว และรู้สึกปลอดภัยในการท่องเที่ยว ขณะเดียวกัน ยืนยันว่า หากมีผู้ใดทำผิดกฎหมาย ก็พร้อมให้เจ้าหน้าที่ไทยดำเนินการตามกฎหมายเช่นเดียวกับทุกประเทศ
ด้าน นายธีรุตม์ ศุภวิบูลย์ผล ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี ระบุว่า หน่วยงานรัฐไม่ได้มุ่งเป้าไปยังนักท่องเที่ยวจากประเทศใดประเทศหนึ่ง แต่ตรวจสอบกลุ่มที่อาจ “แฝงตัวทำธุรกิจผิดกฎหมาย – อยู่อาศัยเกินวีซ่า – ลักลอบทำงาน – เกี่ยวข้องยาเสพติด” เท่านั้น พร้อมย้ำว่า การบังคับใช้กฎหมายต้องทำอย่างระมัดระวัง ไม่ให้กระทบภาพรวมการท่องเที่ยว ส่วนกรณีที่ชาวบ้านเกาะพะงันร้องเรียนเรื่องการรวมตัวประกอบศาสนกิจของกลุ่มชาวอิสราเอลในลักษณะ “พื้นที่ปิด” ผู้ว่าฯ ขอให้สถานทูตตรวจสอบและดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมายไทย เช่นเดียวกับศาสนาอื่น เพื่อความโปร่งใสและปลอดภัยในพื้นที่
ผู้ว่าฯ สุราษฎร์ฯ ยังเสนอให้มี ช่องทางสื่อสารไม่เป็นทางการระหว่างจังหวัดกับสถานทูต เพื่อให้การแลกเปลี่ยนข้อมูลเป็นไปอย่างรวดเร็ว ลดความเข้าใจผิด และเสริมสร้างความสัมพันธ์ที่ดี พร้อมยืนยันว่า จังหวัดสุราษฎร์ธานียินดีต้อนรับนักท่องเที่ยวอิสราเอลทุกคนอย่างอบอุ่น หากพบผู้กระทำผิดกฎหมายก็จะดำเนินการอย่างเท่าเทียมโดยไม่เลือกชาติพันธุ์
สุพจน์ คำจันทร์ รายงาน
