3 พฤศจิกายน 2568 สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ร่วมกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย พล.ต.ต.ชุมพล ศักดิ์สุรีย์มงคล ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาคใต้ชายแดน พล.ต.ต.ประยงค์ โคตรสาขา ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนราธิวาส นายสุทิน ทองมาก ผู้อำนวยการสำนักงาน กสทช. เขต 41 พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจไซเบอร์ (สอท.5) ตำรวจสืบสวนภาค 9 ตำรวจภูธรจังหวัดนราธิวาส สภ.สุไหงโก-ลก และหน่วยปฏิบัติการพิเศษ ภาค 9 ลงพื้นที่ตรวจสอบกิจกรรมของกลุ่ม Call Center ตามนโยบายของรัฐบาลในการปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี

การตรวจสอบดำเนินการในพื้นที่ชายแดนไทย–มาเลเซีย บริเวณ ต.สุไหงโก-ลก อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส เพื่อเฝ้าระวังการใช้งานโทรศัพท์มือถือและการติดตั้งสายอากาศที่อาจถูกนำไปใช้ในการกระทำความผิดทางเทคโนโลยี โดยได้ตรวจสอบเสาสัญญาณโทรศัพท์มือถือจำนวน 3 สถานี พบรายละเอียดดังนี้
1.เสาสัญญาณต้นที่ 1 ตั้งอยู่บนถนนเจริญเขต ซอย 5 ต.สุไหงโก-ลก อ.สุไหงโก-ลก พบว่าสายอากาศบางส่วนหันไปทางประเทศมาเลเซียและมีสัญญาณล้ำข้ามชายแดน เจ้าหน้าที่ กสทช. ได้แจ้งเตือนและกำชับให้ผู้ประกอบการดำเนินการปรับลดกำลังส่งและมุมเอียง (Tilt) ของสายอากาศ พร้อมจำกัดรัศมีการให้บริการ (Cell radius) ไม่เกิน 200 เมตรจากจุดให้บริการ ซึ่งได้ดำเนินการแก้ไขเรียบร้อยแล้วในวันเดียวกัน 2.เสาสัญญาณต้นที่ 2 และ 3 ตั้งอยู่ที่ ต.บูเก๊ะตา อ.แว้ง และบ้านตาบา ต.เจ๊ะเห อ.ตากใบ จ.นราธิวาส พบลักษณะการหันสายอากาศและสัญญาณล้ำข้ามไปยังประเทศเพื่อนบ้านเช่นเดียวกัน โดยเจ้าหน้าที่ได้สั่งการให้ผู้ประกอบการเร่งปรับลดกำลังส่ง ปรับมุมเอียง และจำกัดรัศมีการให้บริการ เพื่อไม่ให้สัญญาณข้ามแดน

ทั้งนี้ สำนักงาน กสทช. ได้กำชับให้ผู้ประกอบกิจการโทรคมนาคมทุกรายปฏิบัติตามมาตรการการตั้งสถานีวิทยุคมนาคมในพื้นที่ชายแดนอย่างเคร่งครัด และให้ดำเนินการแก้ไขให้แล้วเสร็จภายใน 7 วัน หากตรวจพบการฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามข้อกำหนด จะดำเนินการตามกฎหมายอย่างเด็ดขาดต่อไป.

